ที่มา: TOP 500 EnterpriseITPRO

โครงการ "LANTA Supercomputer" โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จของประเทศไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 

โดย "LANTA" ได้รับการจัดอันดับเป็น อันดับ 1 ของไทยและอาเซียน และ อันดับที่ 70 ของโลก จากการจัดอันดับ top500.org ประจำเดือนพฤศจิกายน 2022

ที่มา: สวทช ThaiSC Thailand Science Park

1. เพิ่มความแม่นยำในกระบวนการสำรวจและผลิตพลังงาน ลดความเสี่ยงในการตัดสินใจและเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์ข้อมูลใต้พื้นผิว 

2. ยกระดับศักยภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมพลังงาน ใช้เทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อสนับสนุนการวางแผนเชิงกลยุทธ์ 

3. สนับสนุนงานวิจัยและพัฒนา (R&D) เร่งการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานที่ยั่งยืนและนวัตกรรมใหม่ ๆ

4. สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตพลังงานด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำยิ่งขึ้น

1. เร่งความก้าวหน้าด้านการวิจัยและพัฒนา สนับสนุนโครงการวิจัยในด้าน AI, Big Data และ Simulation เพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การพัฒนายา การศึกษาภูมิอากาศ และพลังงานสะอาด 

2. ยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทย เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลกด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลขั้นสูง 

3. สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่ยั่งยืน ช่วยพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาในด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน และความเป็นอยู่ของประชากร

• หน่วยประมวลผล (Processor): AMD EPYC 9354 (32 คอร์ รวม 47,360 คอร์) 

• การ์ดประมวลผล (GPU): Nvidia H100 SXM5 (94GB) 

• ความเร็วการประมวลผล (Performance): 13.85 Petaflops 

• ระบบเครือข่าย (Networking): Infiniband NDR400 

• ปีที่ติดตั้ง: 2024

ที่มา: TOP 500

• หน่วยประมวลผล (Processor): AMD EPYC™ (Milan) รวม 31,744 คอร์ 

• หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU): NVIDIA A100 จำนวน 704 หน่วย 

• ความจุจัดเก็บข้อมูล: Cray ClusterStor E1000 ขนาด 12 เพตาไบต์ 

• ความเร็วการประมวลผล: 13.7 PetaFLOPS (Theoretical Peak) และ 8.1 PetaFLOPS (Measured Performance) 

• ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ: เทคโนโลยี Liquid Cooling ลดพลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

• เครือข่ายความเร็วสูง: HPE Slingshot Interconnect ความเร็ว 200 Gbps

ที่มา: TOP 500

1. ลดต้นทุนการดำเนินงาน ลดเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายเดือนเหลือเพียงไม่กี่วัน ลดต้นทุนการสำรวจและผลิตพลังงานได้ประมาณ 200-300 ล้านบาทต่อปี เพิ่มรายได้จากการขุดเจาะที่แม่นยำขึ้น 

2. เพิ่มรายได้จากการขุดเจาะที่แม่นยำขึ้น เพิ่มความแม่นยำในกระบวนการขุดเจาะ ลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสค้นพบแหล่งพลังงานใหม่ คาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 500-700 ล้านบาทต่อปี 

3. ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) คืนทุนได้ภายใน 3-5 ปี และสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องในระยะยาว 

4. เพิ่มศักยภาพการพัฒนานวัตกรรม เร่งการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในหลากหลายด้าน เช่น พลังงานทดแทนและการจัดการทรัพยากร

1. ลดเวลาการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ จากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่วินาที 

2. ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ด้วยระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling 

3. ช่วยลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ 

4. สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรม เช่น พลังงาน การแพทย์ และการบริหารจัดการจราจร 

5. ส่งเสริมการสร้างสตาร์ทอัพด้าน AI และ Big Data 

6. เพิ่มรายได้จากการพัฒนานวัตกรรม เช่น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ และวัสดุใหม่ สนับสนุนการพัฒนายาใหม่และการแพทย์แม่นยำ ช่วยจำลองสภาพภูมิอากาศเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม สร้างโอกาสการจ้างงานในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง

1. สนับสนุนเศรษฐกิจ ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมพลังงาน และยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก

2. สนับสนุนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขุดเจาะและการผลิตพลังงาน ด้วยการประมวลผลข้อมูลที่แม่นยำยิ่งขึ้น 

3. สร้างโอกาสพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพิ่มโอกาสในการพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI และ Data Analytics 

4. เสริมสร้างงานวิจัยและการศึกษา เปิดโอกาสให้นักวิจัยและนักศึกษาเข้าถึงทรัพยากรซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในสาขาต่าง ๆ

1. สนับสนุนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ยกระดับขีดความสามารถของนักวิจัยไทยให้แข่งขันในระดับโลก สร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรม เช่น การพัฒนาพลังงานสะอาดและการออกแบบเมืองอัจฉริยะ 

2. ผลกระทบเชิงสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ SDGs เช่น การลดการปล่อยคาร์บอน

3. การส่งเสริมการศึกษาและบุคลากร เปิดโอกาสให้นักศึกษาและนักวิจัยเข้าถึงเทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ สร้างบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้าน HPC และ AI เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต

"The Crust 2.5" ของ ปตท.สผ. เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำเทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมสะท้อนความมุ่งมั่นขององค์กรในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระดับองค์กรและประเทศ"

"โครงการ LANTA Supercomputer ของ สวทช. แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ที่ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความก้าวหน้าในการวิจัยและนวัตกรรม แต่ยังมีผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม"